ข้อมูลส่วนตัว

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - pitoon

หน้า: [1]
1



เจาะลึกวิธีติดตั้งสุขภัณฑ์อย่างถูกหลัก ทั้งการเตรียมระบบสุขาภิบาล ติดตั้งวาล์วเปิด-ปิดน้ำ ติดตั้งโถชักโครกและชุดอุปกรณ์ถังพักน้ำ ที่คนกำลังทำบ้านต้องรู้

ห้องน้ำ พื้นที่สำคัญที่ไม่ว่าบ้านไหนก็ต้องมี และ สุขภัณฑ์ห้องน้ำ ก็เป็นอุปกรณ์ในห้องน้ำที่ทุกบ้านขาดไม่ได้ สำหรับผู้ที่กำลังรีโนเวทบ้านหรือสร้างบ้านใหม่ ก่อนจะติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ จำเป็นจะต้องเตรียมตัวอย่างไร รวมถึงควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีติดตั้งสุขภัณฑ์เบื้องต้นมากน้อยแค่ไหน บทความนี้สรุปมาให้อย่างครบถ้วนทุกประเด็น ติดตามกันได้เลย

การเตรียมตัวก่อนติดตั้งสุขภัณฑ์
ทุกคนคงทราบกันดีว่าการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ในห้องน้ำนั้น ย่อมต้องให้ความสำคัญกับการเตรียมพื้นที่ให้พร้อมไม่แพ้พื้นที่อื่น ๆ ในบ้าน เพื่อให้การติดตั้งระบบน้ำและสุขภัณฑ์ทุกชิ้นถูกต้องตรงตามมาตรฐาน และมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ทั้งยังจะส่งผลต่อการใช้งานที่ยาวนาน โดยก่อนการติดตั้งอุปกรณ์ห้องน้ำทุกประเภท ต้องเตรียมตัวให้พร้อมด้วย 5 ขั้นตอนเหล่านี้



1. เตรียมงานโครงสร้างให้สมบูรณ์
อันดับแรก ไม่ว่าจะทำห้องน้ำใหม่หรือรีโนเวทห้องน้ำเดิม ต้องเริ่มจากงานโครงสร้างที่แข็งแรง วางแปลนให้ชัดเจนว่าห้องน้ำของคุณมีขนาดกี่ตารางเมตร สุขภัณฑ์แต่ละชิ้นจะติดตั้งไว้ที่ตำแหน่งใด และแบ่งโซนเปียกโซนแห้งให้ชัดเจน เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งาน หรือหากคุณต้องการผนังกั้นหรือติดตั้งอ่างอาบน้ำ ก็สามารถวางแผนได้ตั้งแต่ขั้นตอนนี้เลย

2. เลือกกระเบื้องพื้นและผนัง
เมื่อโครงสร้างพร้อมแล้ว ลำดับถัดมาคือการเลือกกระเบื้องให้เหมาะกับการใช้งาน โดยกระเบื้องสำหรับปูพื้นห้องน้ำควรมีค่าการดูดซึมน้ำต่ำ และมีค่ากันลื่นหรือค่า R ขั้นต่ำอยู่ที่ R10 เพื่อป้องกันพื้นลื่นเกินไปจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ส่วนกระเบื้องผนังก็สามารถเลือกที่สีสันและลวดลายเข้ากับกระเบื้องปูพื้นได้เลย
           
3. วาง 3 ระบบสำคัญให้ได้มาตรฐาน
นอกจากงานโครงสร้างแล้ว งานระบบก็ถือเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน สำหรับ 3 ระบบสำคัญที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษในการก่อสร้างห้องน้ำ ได้แก่

* ระบบระบายอากาศ: ห้องน้ำควรระบายอากาศได้ดี เพื่อลดปัญหาความอับชื้นและป้องกันการสะสมของเชื้อโรค โดยสามารถทำได้ทั้งการติดตั้งหน้าต่างและการติดตั้งพัดลมระบายอากาศโดยเฉพาะ

* ระบบประปา: ถือเป็นระบบที่สำคัญที่สุดในห้องน้ำ จึงควรติดตั้งให้ได้มาตรฐาน ทั้งปั๊มน้ำ ถังเก็บน้ำ ท่อน้ำดี ท่อระบายน้ำ และท่อน้ำทิ้ง ป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมหรือน้ำไม่ไหลตามมาในภายหลัง

* ระบบไฟฟ้า: อย่าลืมเตรียมระบบไฟฟ้าเอาไว้สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็น เช่น สุขภัณฑ์อัจฉริยะ เครื่องทำน้ำอุ่น ไดร์เป่าผม ติดตั้งเต้าปลั๊กไฟในโซนแห้ง เตรียมสายดินให้พร้อม รวมถึงหากเป็นปลั๊กที่อยู่บริเวณด้านล่างใกล้กับพื้นห้องน้ำ ควรติดตั้งให้สูงห่างจากพื้นอย่างน้อย 30 ซม. และควรมีฝาพลาสติกครอบปลั๊กไฟ ช่วยป้องกันน้ำกระเซ็นในขณะที่ทำความสะอาดห้องน้ำ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ห้องน้ำผู้สูงอายุ


         
4. เลือกสุขภัณฑ์ที่ตอบโจทย์
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกสุขภัณฑ์ มีอยู่หลากหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นประเภทของสุขภัณฑ์ ขนาด สี ระบบชำระล้าง และดีไซน์ เบื้องต้นแนะนำให้เลือกขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ห้องน้ำ ความสูงเหมาะกับผู้ใช้งาน สีและดีไซน์เข้ากับกระเบื้อง รวมถึงคอนเซปต์โดยรวมของบ้านด้วย หรือหากเป็นผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี นวัตกรรมล้ำสมัย ในด้านสุขอนามัยและช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานห้องน้ำ สามารถเลือกใช้เป็นสุขภัณฑ์อัตโนมัติ หรือสุขภัณฑ์ที่มาพร้อมฝารองนั่งอัตโนมัติ ก็จะช่วยให้คุณมีสุขภาวะที่ดีมากยิ่งขึ้น

5. ใช้บริการช่างก่อสร้างและผู้รับเหมาที่น่าเชื่อถือ
อยากแน่ใจว่าห้องน้ำของคุณจะสวยงาม ใช้งานได้ตอบโจทย์ อย่าลืมเลือกใช้ช่างก่อสร้างและผู้รับเหมาที่มีความสามารถ เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้าง วางระบบ และติดตั้งอุปกรณ์สุขภัณฑ์ อย่างแท้จริง เพียงเท่านี้ ขั้นตอนการเตรียมตัวติดตั้งระบบสุขภัณฑ์ของคุณก็จะสมบูรณ์แบบแล้ว


2
ตรวจสุขภาพประจำปี จำเป็นอย่างไร


หลายคนมักละเลยการตรวจสุขภาพประจำปีเพราะรู้สึกว่าไม่สำคัญ เพราะส่วนใหญ่มักจะรอให้เจ็บหรือป่วยแล้วค่อยมาโรงพยาบาล ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นมักพบอีกทีเมื่อมีอาการหนัก หรือเรื้อรัง ซึ่งยากต่อการรักษาไปเสียแล้ว นั่นเป็นเพราะว่าเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพร่างกายนั่นเอง

ข้อดีของการตรวจสุขภาพประจำปี
 
หนึ่งในขั้นตอนที่ทำสำคัญที่สุดของการซื้อประกันสุขภาพ คือ การเลือกประเภทของประกันชีวิต ซึ่งปัจจุบันประกันชีวิตมีหลากหลายประเภท ทั้งด้านความคุ้มครองและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เราจึงควรเลือกประเภทประกันชีวิตที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ และรายได้หลักของเรา โดยประกันชีวิตนั้นแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
 
1. ป้องกันหรือค้นหาโรคและภาวะผิดปกติในร่างกาย
เพราะบางโรคเราสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการ การที่เราตรวจเจอจะทำให้เราได้รับการรักษาที่เหมาะสม และหาทางป้องกันไม่ให้โรคนั้นลุกลามหรือไปถึงขั้นที่รุนแรงได้ หรือแม้จะไม่ได้ตรวจพบว่าเป็นโรคอะไร แต่มีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดโรคนั้นๆ เราก็สามารถหาวิธีป้องกันหรือลดปัจจัยที่จะทำให้เกิดได้อีกด้วย

2. จุดเริ่มต้นการต่อสู้กับโรคร้ายที่ดีที่สุด
หลายคนไม่ตรวจสุขภาพประจำปีเพราะกลัวการตรวจเจอโรคต่างๆ ซึ่งความจริงนั้นการตรวจเจอโรคร้ายต่างๆ นั้นยิ่งเร็วยิ่งดี เพราะจะช่วยให้เราวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ทั้งยังช่วยให้เราวางแผนในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้องเหมาะสมด้วย ทำประกันมะเร็ง

3. ลดอัตราการป่วย และเสียชีวิต
อีกข้อดีของการตรวจสุขภาพประจำปี คือการที่เราจะทราบสภาวะปัจจุบันของร่างกายได้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อนำไปสู่การดูแลสุขภาพที่เหมาะสม ทำให้ช่วยลดอัตราการเจ็บป่วย และเสียชีวิตได้นั่นเอง



ควรเริ่มตรวจสุขภาพประจำปีตอนอายุเท่าไหร่?
โดยปกติแล้วการตรวจสุขภาพประจำปีควรเริ่มตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ถ้ามีอาการที่ผิดปกติหรือน่าสงสัยก็สามารถเข้ารับการตรวจก่อนอายุ 20 ปี โดยในแต่ละช่วงอายุนั้นก็จะมีสิ่งที่ควรตรวจแตกต่างกันไป เช่น
ผู้หญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป และเคยมีเพศสัมพันธ์ควรเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูก
ผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปควรตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากปีละ 1 ครั้ง
ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปควรตรวจการติดเชื้อทางเดินอาหาร และตรวจช่องท้องเพื่อหาความผิดปกติของถุงน้ำดี ตับ และไต
ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปต้องตรวจสมรรถภาพการทำงานของหัวใจ และความแข็งแรงของกระดูก เป็นต้น



การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและไร้โรคภัยนั้นถือเป็นอีกข้อที่สำคัญในชีวิต ซึ่งนอกจากการตรวจสุขภาพประจำปีที่จะช่วยให้เราวางแผนและดูแลเรื่องสุขภาพได้แล้วนั้น การทำประกันสุขภาพ ก็เป็นอีกตัวช่วยที่น่าสนใจเพราะเป็นอีกตัวช่วยที่ทำให้เราสามารถอุ่นใจได้แม้ในวันที่เจ็บป่วย เพราะมีความคุ้มครองที่ทั้งคุ้มค่าและครอบคลุม นอกจากนี้เบี้ยประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย การดูแลสุขภาพและวางแผนการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องเหมาะสมจึงสำคัญ เพราะเราไม่อาจรู้เลยว่าร่างกายที่อยู่กับเราทุกวันนั้นจะสมบูรณ์แข็งแรงได้แบบนี้ไปได้ถึงเมื่อไร

3
รูปแบบของก๊อกน้ำฝักบัว วัสดุที่นิยมใช้ทำก๊อกน้ำ คือ สแตนเลสเนื่องจากมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และปลอดภัยจากสารตกค้างประเภทโลหะหนัก ซึ่งก๊อกน้ำฝักบัวมีทั้งหมด 2 ประเภท สามารถเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ได้แก่
ก๊อกเดี่ยว คือ ก๊อกน้ำที่สามารถเปิดใช้น้ำเย็นได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ก๊อกผสม คือ ก๊อกน้ำที่สามารถเปิดใช้ได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น โดยมีทั้งแบบก้านโยกซ้าย - ขวาซึ่งมีสัญลักษณ์บอกน้ำร้อนและน้ำเย็นอยู่ที่ตัวก๊อก และก๊อกที่แยกจุดเปิดน้ำร้อนและน้ำเย็นเป็นสองฝั่งเพื่อปรับระดับความร้อน – เย็นตามความต้องการ ซึ่งการติดตั้งมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นก๊อกที่ติดตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์, ก๊อกที่ติดตั้งอยู่กับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และก๊อกที่ติดตั้งออกจากผนัง



นวัตกรรมก๊อกน้ำฝักบัวที่ใช้งานง่าย สะดวกสบาย และทนทาน
ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันที่นิยมใช้ก๊อกน้ำและก๊อกน้ำฝักบัวแบบผสมคือสามารถใช้ได้ทั้งน้ำร้อน และน้ำเย็น TOTO จึงได้พัฒนานวัตกรรม COMFORT GLIDE โดยปรับปรุงและพัฒนาแผ่นเซรามิกที่อยู่ในวาล์ว ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญภายในก๊อกอ่างล้างหน้าที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ควบคุมการปล่อยน้ำได้ง่ายดายกว่าเดิมแค่ขยับก้านโยกเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ก๊อกน้ำที่มาพร้อมระบบ COMFORT GLIDE ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า และมีความเสถียรของแรงในการขยับก้านโยกต่อครั้งได้ดีกว่าก๊อกน้ำทั่ว ๆ ไปอีกด้วย


รูปแบบการติดตั้งก๊อกน้ำฝักบัวตามการใช้งาน
นอกจากรูปแบบก๊อกน้ำและฝักบัวที่เหมาะกับการใช้งานแล้ว รูปแบบการติดตั้งก๊อกน้ำตามการใช้งานก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง เนื่องจากต้องเลือกการติดตั้งให้เหมาะสมกับแบบห้องน้ำ โดยรูปแบบการติดตั้งก๊อกมีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่

1. ก๊อกน้ำและฝักบัวแบบฝังผนัง
เหมาะสำหรับก๊อกอ่างล้างหน้า อ่างล้างหน้า และฝักบัว เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถเลือกตำแหน่งที่ต้องการติดตั้งได้ เหมาะสำหรับห้องน้ำที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก เพราะช่วยประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งฝักบัวในห้องน้ำ และยังเลือกติดตั้งคู่กับสุขภัณฑ์อื่น ๆ ได้ตามความต้องการ

2. ก๊อกน้ำและฝักบัวแบบตั้งพื้น
เหมาะสำหรับการใช้งานกับอ่างอาบน้ำ มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับห้องน้ำที่ต้องการเน้นเรื่องดีไซน์ในการออกแบบ สำหรับก๊อกน้ำแบบตั้งพื้นจาก TOTO ถูกออกแบบให้เลือกจับคู่กับอ่างอาบน้ำแบบต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว เหมาะกับการตกแต่งทุกสไตล์

3. ก๊อกน้ำแบบตั้งเคาน์เตอร์
เหมาะกับการเป็นก๊อกอ่างล้างหน้า ทั้งอ่างล้างหน้าแบบวาง หรืออ่างล้างหน้าฝังบนเคาน์เตอร์ที่มีช่องสำหรับติดตั้งก๊อกน้ำ ข้อดีคือสามารถบำรุงรักษาได้สะดวก



วิธีเลือกก๊อกน้ำระบบเซ็นเซอร์
ปัจจุบันก๊อกน้ำระบบเซ็นเซอร์ หรือ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ นั้นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสะดวกสบาย และช่วยหลีกเลี่ยงการสัมผัสเชื้อโรคได้ดีกว่าก๊อกซิงค์ปกติที่เราต้องเอามือไปสัมผัสเพื่อเปิด - ปิดก๊อกน้ำ โดยวิธีการเลือกก๊อกเซ็นเซอร์มี 4 วิธีหลัก ๆ ได้แก่

1. สำรวจระบบน้ำและไฟฟ้าสำหรับติดตั้งก๊อกน้ำ
ก่อนเลือกซื้อก๊อกน้ำระบบเซ็นเซอร์ควรสำรวจระบบไฟฟ้าและระบบประปาภายในบ้านเสียก่อน เนื่องจากก๊อกแต่ละรุ่นนั้นมีเงื่อนไขการติดตั้งที่แตกต่างกันซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้งานอีกด้วย

2. รูปแบบการติดตั้งก๊อก
โดยปกติก๊อกระบบเซ็นเซอร์นั้นมีทั้งแบบใช้ไฟฟ้าในบ้านและใช้แบตเตอรี่ในตัว แต่ด้วยนวัตกรรม SELF POWER จาก TOTO ที่ได้พัฒนาก๊อกระบบเซ็นเซอร์ที่ไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า แต่ใช้พลังงานจากการไหลของน้ำทำหน้าที่ชาร์จแบตเตอรี่ให้ตัวก๊อกทำงาน ซึ่งช่วยประหยัดพลังงาน และลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา

3. เลือกจากดีไซน์และการตกแต่งห้องน้ำ
การเลือกซื้อก๊อกน้ำระบบเซ็นเซอร์ถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง จึงควรเลือกดีไซน์ก๊อกที่ถูกใจและเข้ากับสไตล์ห้องน้ำที่สุดเพื่อให้คุ้มค่ากับการลงทุน และอย่าลืมทดลองใช้ก๊อกเพื่อเช็กประสิทธิภาพว่าใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่

4. ฟังก์ชันการใช้งานของก๊อกเซ็นเซอร์
สำหรับฟังก์ชันของก๊อกเซ็นเซอร์คุณภาพดีที่ควรพิจารณา คือ ก๊อกที่ใช้ควรจะปล่อยน้ำออกมาทันทีเมื่อยื่นมือเข้าไปใกล้ระยะ และปิดน้ำทันทีเมื่อนำมือออกจากระยะเซ็นเซอร์ นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนอุณหภูมิร้อน - เย็นได้โดยไม่ต้องสัมผัสกับก๊อกน้ำอีกด้วย



4
ฝักบัวน้ำหยดเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในห้องน้ำที่สร้างความรำคาญใจให้กับหลายคน แต่ใครว่าปัญหานี้แก้ไม่ได้ มาดู 5 วิธีแก้น้ำฝักบัวหยดที่ทำได้ง่าย ๆ



ฝักบัวน้ำหยด เป็นปัญหาในห้องน้ำที่หลายบ้านต้องเผชิญกันอยู่บ่อย ๆ โดยน้ำฝักบัวหยดนั้นไม่เพียงแต่ส่งผลให้พื้นห้องน้ำเปียกลื่นเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ยังส่งผลให้ค่าน้ำพุ่งสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่อย่างไรก็ตามปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาที่จะแก้ไขหรือป้องกันไม่ได้ โดย TOTO ได้แนะนำ 5 วิธีแก้ไขปัญหาฝักบัวน้ำหยด มาฝากทุกคนแล้วในวันนี้

 
5 วิธีแก้ไขปัญหาฝักบัวน้ำหยด ให้ครบปัญหา
1. ตรวจสอบก๊อกน้ำ
ในหลายกรณีปัญหาฝักบัวน้ำหยดอาจมีต้นตอปัญหาจากก๊อกน้ำ จึงควรเริ่มจากการตรวจสอบก๊อกน้ำเสียก่อนว่ามีปัญหา เสียหาย หรือเสื่อมคุณภาพหรือไม่ โดยวิธีการตรวจสอบง่าย ๆ เพียงทดลองปิดก๊อกน้ำซึ่งเป็นตัวควบคุมแรงดันน้ำ ในกรณีที่เป็นฝักบัวก้านแข็ง หลังจากปิดก๊อกน้ำแล้วหากพบว่ามีน้ำฝักบัวหยดออกมาแสดงว่าก๊อกน้ำนั้นเสื่อมสภาพหรือเสียหาย หรือในกรณีที่ถ้าเป็นฝักบัวสายอ่อน ให้ถอดสายฝักบัวออก หากพบว่ามีน้ำหยดก็อาจหมายความว่าก๊อกน้ำนั้นมีความผิดปกติได้เช่นกัน

2. เปลี่ยนก๊อกน้ำ
หากพบปัญหาก๊อกน้ำฝักบัวชำรุดเสียหายซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำฝักบัวหยด ก็สามารถแก้ไขด้วยการเปลี่ยนก๊อกน้ำอันใหม่ โดยขั้นตอนนี้ทุกคนสามารถทำได้ที่บ้านด้วยการปิดก๊อกน้ำ แล้วถอดก๊อกน้ำออกจากสายฝักบัว จากนั้นจึงเปลี่ยนชิ้นใหม่เข้าไปจากนั้นจึงพันด้วยเทปประปาก็เป็นอันเรียบร้อย



3. ทำความสะอาดคราบหินปูนที่หัวฝักบัว
คราบหินปูนหรือคราบสกปรกที่หัวฝักบัวเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้น้ำไหลออกจากฝักบัวได้ไม่สะดวก ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำตกค้างในหัวฝักบัวและเป็นที่มาของน้ำฝักบัวหยดได้ ดังนั้นควรทำความสะอาดหัวฝักบัวอย่างสม่ำเสมอ โดยถอดหัวฝักบัวออกมาทำความสะอาดคราบหินปูนภายในก็จะช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานให้ยาวนานได้มากยิ่งขึ้น

สำหรับฝักบัวที่ไม่สามารถถอดหัวออกมาล้างทำความสะอาดได้ สามารถใช้วิธีง่าย ๆ เพียงนำยาสีฟันมาป้ายแล้วขัดหัวฝักบัวให้สะอาด หรือใช้วิธีใช้น้ำส้มสายชูใส่ลงในถุงพลาสติกแล้วนำไปสวมเข้าในหัวฝักบัว รัดปากถุงให้แน่นแล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วเปิดน้ำทิ้งไว้สักพักหนึ่ง แล้วนำแปรงสีฟันมาขัดคราบสกปรกออกก็เป็นที่เรียบร้อย

 
4. ตั้งฝักบัวให้สูงกว่าเครื่องทำน้ำอุ่น
ตั้งฝักบัวให้สูงกว่าเครื่องทำน้ำอุ่น
ปัญหาน้ำค้างในหัวฝักบัวอาบน้ำก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฝักบัวน้ำหยด เนื่องจากหลังใช้งานฝักบัวเสร็จแล้วมักจะยังมีน้ำค้างอยู่ภายในหัวฝักบัวซึ่งเกิดจากแรงดันของเครื่องทำน้ำอุ่น ดังนั้นควรตั้งฝักบัวให้อยู่สูงกว่าเครื่องทำน้ำอุ่นเพื่อป้องกันปัญหาน้ำฝักบัวหยดได้อีกทางหนึ่ง

 
5. เลือกใช้ฝักบัวที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพ
ฝักบัวเป็นอุปกรณ์ที่ผลิตจากวัสดุได้หลายชนิด ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการใช้งาน การตกแต่ง และราคา สำหรับวัสดุที่เหมาะกับการทำฝักบัวมากที่สุดก็คือ สแตนเลส หรือโครเมียม เนื่องจากวัสดุเหล่านี้มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้อย่างยาวนานมากกว่าฝักบัวพลาสติก ซึ่งการใช้ฝักบัวที่มีคุณภาพสูงจะช่วยป้องกันน้ำหยดจากฝักบัวได้เช่นกัน



นอกจาก 5 วิธีแก้ไขปัญหาฝักบัวน้ำหยดจะช่วยแก้ปัญหากวนใจในห้องน้ำแล้ว การใช้ฝักบัวที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันทันสมัยยังช่วยสร้างความผ่อนคลายให้กับผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำได้ เช่น ฝักบัว AERIAL SHOWER ที่เพิ่มมวลอากาศเข้าไปในสายน้ำ ทำให้ใช้น้ำในปริมาณที่น้อยลง นวัตกรรม ACTIVE WAVE ที่สร้างเกลียวน้ำขนาดใหญ่ COMFORT WAVE ซึ่งผสมผสานเกลียวน้ำหลายแบบช่วยให้ความชุ่มฉ่ำทุกสัมผัส และการปล่อยน้ำให้ไหลห่อหุ้มร่างกายโดยไม่กระเซ็นออกด้านข้างของ WARM SPA ช่วยให้ทุกคนในครอบครัวได้รับความสะอาด และผ่อนคลายได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง


หน้า: [1]